เขียน เอมะ ป้ายขอพรยังไง ให้คำอธิษฐานเป็นจริง
เคยได้ยินไหมคะว่า เป้าหมาย ความปรารถนา จะสัมฤทธิ์ผลได้มากกว่า ถ้าคุณเขียนออกมาให้ชัดเจน ไม่ใช่เพียงแค่คิดอยู่ในใจ
การขอพรที่ศาลเจ้าก็เช่นกัน
วลาที่ไปสักการะศาลเจ้าที่ญี่ปุ่น นอกจากการโยนเหรียญทำบุญ ไหว้สักการะเทพเจ้าและอธิษฐานอยู่ในใจแล้ว สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ การเขียนความปรารถนา ถ่ายทอดออกมาให้ชัดเจน และแสดงความมุ่งมั่นให้เทพเจ้ารับรู้เป็นลายลักษณ์อักษร นั่นก็คือ “การเขียน เอมะ” หรือแผ่นป้ายขอพร
หากมีความมุ่งมั่นในคำอธิษฐานอย่างจริงจัง เทพเจ้าจะนำทางและช่วยเหลือคุณอย่างเต็มที่ คนที่ไม่ลืมเป้าหมาย และมีความพยายามอย่างจริงจัง จึงจะเป็นคนที่ได้รับความสุขจากความฝันที่กลายเป็นจริง

- เอมะ คืออะไร มีที่มาอย่างไร
- วิธีการเขียนเอมะ
- เคล็ดลับการเขียนเอมะให้สัมฤทธิผล
- ข้อสงสัยและข้อควรระวัง
เอมะ คืออะไร มีที่มาอย่างไร

เอมะ 絵馬 คือแผ่นป้ายขอพร ที่ศาลเจ้าญี่ปุ่น
絵馬 ema แปลว่าภาพวาดม้า
มาจากคำว่า 絵 e : เอะ รูป , ภาพวาด + 馬 uma : อุมะ ม้า
ลัทธิชินโตเชื่อกันว่า ม้าเป็นพาหนะของเทพเจ้า ในสมัยโบราณจึงมีการใช้ม้าตัวเป็นๆ มาถวายที่ศาลเจ้าเพื่อเป็นการสักการะ แต่การจะนำม้าทั้งตัวมาถวาย ไม่ใช่ว่าทุกคนจะทำได้โดยง่าย ว่ากันว่าในยุคเฮอัน ( ค.ศ. 794 – ค.ศ. 1185 ) เริ่มมีการเปลี่ยนจากม้าที่มีชีวิต มาเป็นรูปปั้นม้าที่ทำจากดิน ไม้แกะสลักรูปม้า จนมาเป็นภาพวาดรูปม้าบนแผ่นไม้
จนถึงปัจจุบัน แม้ภาพวาดบนแผ่นไม้ขอพร จะมีหลายหลากแบบ ไม่ใช่ภาพม้าอย่างเดียวอีกต่อไป แต่ก็ยังเรียกชื่อว่า เอมะอยู่ดังเดิม

วิธีการเขียนเอมะ
- เขียนคำอธิษฐานลงบนด้านที่ว่าง ไม่มีลวดลาย
- การเขียนเอมะเป็นการเขียนถึงเทพเจ้า จึงควรเขียนตัวบรรจง ให้อ่านง่าย ใช้ถ้อยคำที่สุภาพ และเขียนด้วยความรู้สึกขอบคุณ
- ถ้าสิ่งที่อยากขอมีหลายอย่าง พยายามรวบรวมให้เป็นเรื่องเดียว ที่เข้าใจง่ายชัดเจน ไม่ควรขอหลายๆ เรื่อง
- เพื่อให้เทพเจ้ารู้ว่าเป็นคำขอของใคร การเขียนชื่อที่อยู่ลงบนเอมะด้วยจะดีกว่า แต่เพื่อป้องกันข้อมูลส่วนบุคคล อาจจะเปลี่ยนเป็นการใช้ตัวอักษรย่อแทน ใส่ที่อยู่คร่าวๆ เช่น ประเทศ จังหวัด เขตที่อาศัยอยู่
เคล็ดลับการเขียนเอมะ ให้สัมฤทธิ์ผล

มีอีกเทคนิคที่อ่านเจอจากเว็บญี่ปุ่น บอกว่าทำวิธีนี้ จะช่วยส่งผลสัมฤทธิ์ได้อย่างมาก
การขอพรจากศาลเจ้า เป็นการเผชิญหน้ากับตัวตนของตนเอง วิธีการเขียนคำอธิษฐานไม่มีแบบแผนที่ตายตัว แต่สิ่งสำคัญคือ เขียนคำอธิษฐานด้วยใจที่จรดจ่อ แน่วแน่ เป็นเรื่องตัวเองมีความตั้งใจอย่างจริงจัง
1. เขียนเอมะ ด้วยประโยคที่ย้ำกับตัวเองอย่างมั่นใจ ว่าสิ่งนั้นเกิดขึ้นจริงตามที่อธิษฐาน ในเวลาที่ต้องการ
แทนที่จะเขียนว่า ขอให้…สิ่งนั้นเกิดขึ้น… เช่น ขอให้รวย ขอให้มีความสุข ขอให้สอบผ่าน
ให้เขียนว่า สิ่งนั้นเกิดขึ้นแน่นอน
เพื่อเป็นการเขียนที่ย้ำกับจิตใต้สำนึกของตัวเอง ด้วยความตั้งใจอย่างแรงกล้า จะทำให้เกิดพลังและลงมือทำ เพื่อให้ความปรารถนาเป็นจริง
แทนที่จะเขียนว่า
ขอให้สอบเข้ามหาวิทยาลัยโตเกียวได้
ให้เขียนว่า
ปีนี้ฉันสอบเข้ามหาวิทยาลัยโตเกียวได้แน่นอน
ตัวอย่างอื่นๆ เช่น
- ในปี…นี้ สมาชิกในครอบครัวทุกคนสุขภาพแข็งแรง
- ในปี….นี้ คุณพ่อหายจากโรค….แน่นอน
- แต่งงานกับคุณ…. ภายในปี…
- พัฒนาตัวเองเพื่อได้เจอคู่ครองที่ดีภายใน 2 ปีนี้
2. อ่านสิ่งที่เขียนย้ำๆ
ทุกๆ วัน อย่างน้อย 1 สัปดาห์
กำหนดเวลาช่วงนึง อ่านเอมะที่ตัวเองเขียนไว้
3. นำเอมะไปแขวน
หลังจากนั้น ไปสักการะศาลเจ้าใกล้บ้านและเอาเอมะที่เขียนไว้นั้นไปแขวน

ข้อสงสัยและข้อควรระวัง
- เวลาแขวนเอมะที่ศาลเจ้า ควรแขวนด้านไหน?
บางคนรู้สึกอายที่จะโชว์คำอธิษฐานที่เขียนบนเอมะออกมาให้คนอื่นเห็น แต่การเขียนเอมะคือเพื่อให้เทพเจ้าเห็น ดังนั้น เวลาแขวนจะต้องแสดงด้านที่เขียนคำอธิษฐานออกมาด้านนอก เพื่อให้เทพเจ้าสามารถอ่านได้ชัดเจน
- เอาเอมะกลับบ้านได้ไหม?
จริงๆ แล้วเอมะเป็นการเขียนขอพรเทพเจ้าที่ศาลเจ้า จึงควรแขวนไว้ในจุดที่ทางศาลเจ้ากำหนด แต่ก็ไม่ได้มีกฎตายตัวว่า ห้ามเอาเอมะกลับบ้าน ดังนั้นถ้าเอาเอมะกลับบ้าน ก็ควรวางไว้ในที่สักการะบูชา หรือวางไว้ในที่สูงเหนือระดับสายตา
- การเขียนเอมะขอพร ควรจะทำสองครั้ง
คือตอนที่ไปขอพรครั้งแรก ครั้งที่สองคือไปขอบคุณเมื่อพรที่ขอนั้นเป็นจริง และควรจะไปขอบคุณภายใน 1 ปีเมื่อคำอธิษฐานเป็นจริง
เทคนิคนี้ ลองนำไปใช้ดูนะคะ
แต่ในช่วงนี้ ยังเดินทางไปญี่ปุ่นไม่ได้ ลอง โหลดภาพเอมะด้านล่างนี้ แล้วเขียนเอมะของตัวเองด้วยความตั้งใจที่แน่วแน่ดู คำอธิษฐานอาจเป็นจริงได้ด้วยตัวคุณเอง


คิดแบบญี่ปุ่น เริ่มต้นธุรกิจแบบไทย สำเร็จได้ด้วยเทคนิคสไตล์ฟีนิกซ์ลาวา
จะดีไหม ถ้าคุณสามารถเริ่ม